10. โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ (Oliver Cromwell)
อดีตแม่ทัพฝ่ายรัฐสภาที่ได้รับชัยชนะเหนือกองทัพของพระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 1 ในเหตุการณ์สงครามกลางเมืองของอังกฤษ และหลังจากนั้นเขาก็ได้เปลี่ยนรูปแบบการปกครองของอังกฤษเป็นแบบสาธารณรัฐ ถึงแม้เขาจะปกครองประเทศอังกฤษเพียงระยะเวลาสั้น ๆ แต่แนวคิดของเขากลับเป็นจุดเริ่มต้นของการปกครองระบอบประชาธิปไตยในเวลาต่อมา
9. วิลเลียม เช็กสเปียร์ (William Shakespeare)
นักประพันธ์ชื่อก้องโลกชาวอังกฤษ ผู้สามารถถ่ายทอดอารมณ์ผ่านงานเขียนได้สละสลวย อย่างไม่มีที่ติ โดยเขาสามารถเปลี่ยนโลกให้มองเห็นถึงความสวยงามของชีวิตได้ด้วยมหากาพย์ที่สะท้อนถึงตัวตนของมนุษย์ ที่เต็มไปด้วยกิเลส ความรัก ความหลงใหล และการทรยศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ยังคงเป็นคติสอนใจมาจวบจนถึงปัจจุบัน และเขาก็ยังแสดงให้เห็นว่าศิลปะนั้นไม่ใช่แค่การวาดรูปเท่านั้น แต่ศิลปะยังสามารถถ่ายทอดอารมณ์ออกมาเป็นตัวอักษรได้อีกด้วย
8. มาร์ติน ลูเธอร์ คิง (Martin Luther King)
นักบุญชาวอเมริกา ผู้เดินตามรอยมหาตมะ คานธี เขาเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเรียกร้องสิทธิมนุษยชน เพื่อร่วมต่อต้านการเหยียดสีผิวในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในปี 1964 เขาได้รับรางวัลโนเบล ในสาขาสันติภาพ เพื่อเป็นรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับสิ่งที่เขาได้ทำเพื่อประชาชน และเพื่อเป็นการระลึกถึงคุณงามความดีของเขา ทางการสหรัฐฯ จึงได้จัดตั้งให้มีวัน มาร์ติน ลูเธอร์ คิง เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ของประเทศสหรัฐอเมริกา นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 เป็นต้นมา
7. เอลวิส เพรสลีย์ (Elvis Presley)
นักดนตรีและนักแสดงชาวอเมริกัน หรือที่เรารู้จักกันในฉายา "ราชาแห่งร็อคแอนด์โรล" เพราะไม่ว่าจะเป็นการเต้นหรือการร้องเพลง เขาก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างลึกซึ้งกินใจ และยังเป็นสัญลักษณ์ของวงการดนตรีในยุคนั้นอีกด้วย
6. อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein)
นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกด้วยการค้นพบทฤษฎีสัมพันธภาพ และเขาก็ยังถูกยกย่องว่า เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีที่มีอิทธิพลต่อวงการวิทยาศาสตร์มากที่สุดในยุคปัจจุบันอีกด้วย และถึงแม้เขาจะเสียไปแล้ว แต่ทฤษฎีของเขาก็ยังคงเป็นที่จดจำ และเป็นทฤษฎีที่น่าสนใจของนักฟิสิกส์ทั่วโลกต่อไป
5. มิคาอิล กอร์บาชอฟ (Mikhail Gorbachev)
อดีตประะธานาธิบดีของสหภาพโซเวียต และยังเป็นผู้นำคนสุดท้ายที่ปกครองด้วยระบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ เพราะหลังจากที่เขาทำการปฏิรูปการปกครองก็ทำให้สหภาพโซเวียตล่มสลายลง แต่วีรกรรมอันยิ่งใหญ่ที่เขาได้ฝากไว้ก็คือ การรวมชาติเยอรมนีเข้าด้วยกัน และเป็นหนึ่งในผู้ยุติสงครามเย็น ซึ่งทำให้โลกกลับมาสงบสุขขึ้นอีกครั้ง และจากสองเหตุการณ์นี้เองที่ทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี ค.ศ. 1990
4. มหาตมะ คานธี (Mahatma Gandhi)
ผู้นำชาวอินเดียสู่อิสรภาพ หลังจากที่ประเทศอินเดียต้องอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษมานานถึง 70 ปี เขายังเป็นผู้นำอิสรภาพสู่ชาวอินเดียโดยการยกเลิกระบบชนชั้นวรรณะในประเทศอินเดีย และก็ยังเป็นผู้มอบอิสรภาพในการนับถือศาสนาอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เองทำให้ชื่อของมหาตมะ คานธีได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ และความสงบสุขของคนทั้งโลก